• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม ครบวงจร $$

Started by www.SeoNo1.co.th, Sep 15, 2025, 03:30 PM

Previous topic - Next topic

www.SeoNo1.co.th

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องมือส่งกำลัง อะไหล่เครื่องจักร ที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้งานอุตสาหกรรมการผลิตมากมายก่ายกอง พร้อมบริการให้คำแนะนำและจัดส่งทั่วราชอาณาจักร



เป็นมอเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใช้กับระบบไฟกระแสสลับ การใช้แรงงานรากฐานเป็นเปลี่ยนแปลงกำลังไฟฟ้าให้แปลงเป็นพลังงานกล ส่วนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนกำลังไฟฟ้าเป็นขดลวดในสเตเตอร์ เมื่อได้รับกำลังไฟฟ้าก็จะสร้างสนามไฟฟ้าขึ้น และจะไปนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเหนี่ยวนำของไฟฟ้าขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ หรือ เรียกว่าตัวหมุน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ให้พลังงานกลนั่นเอง ก็เลยทำให้มีการเรียก มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ว่ามอเตอร์รั้งนำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ

1. มอเตอร์ไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับแบบอินดักชั่น หรือ รั้งนำ– จะมีความเร็วพร้อมรอบคงเดิม เนื่องด้วยขึ้นกับความถี่ของแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ส่วนประกอบไม่ค่อยซับซ้อน ราคาถูก ทำนุบำรุงง่ายเนื่องจากว่าไม่มีคอมไม่วเตเตอร์กับแปรงถ่านเสมือนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องควบคุมความเร็วอินเวอร์เตอร์ก็จะสามารถคุมความเร็วได้ตั้งแต่0 ถึง ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์
ด้านในประกอบไปด้วยโรเตอร์, ขดลวดสนามแม่เหล็ก, โครงมอเตอร์, ขั้วต่อสาย, ฝาครอบหัว, ฝาครอบท้าย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดสำคัญๆตัวอย่างเช่น อินดิกชั่นมอเตอร์แบบทรงกระรอกกับอินดิกชั่นมอเตอร์แบบขดลวด การใช้งานขึ้นกับความเหมาะสมของเครื่องจักร

2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ แบบสิงโครนัส– จะเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่ขนาดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ 150 KW ไปจนถึง 15 MW ระดับความเร็วตั้งแต่ 150 – 1,800 RPM มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ

- สเตเตอร์ (Stator) จะเป็นราวแบบอินดักชั่น มีร่องพันขดลวด 3 ชุด เฟสละ 1 ชุด พอจ่ายกระแสสลับ 3 เฟสให้สเตเตอร์จะกำเนิดสนามไฟฟ้าหมุนขึ้นมา
- โรเตอร์ (Rotor) ลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่น ขดลวดพันด้านข้างขั้วแม่เหล็กที่ยื่นออกมาโดยจะพันยื่นต่อกับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไฟฟ้ากระแสตรงด้านนอกไม่ก็สร้างขั้วแม่เหล็กตรงโรเจอร์ เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟมายังสเตเตอร์จะกำเนิดเป็นสนามแม่เหล็กหมุนความเร็วพอๆกับความเร็วของสนามไฟฟ้าตรงสเตเตอร์นั่นเอง

ไฟฟ้า 3 เฟสเป็นอย่างไร?

กระแสไฟฟ้า 1 เฟส คือ กระแสไฟฟ้าที่ใช้กับ หลอดไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จะเป็นไฟกระแสสลับ ระบบ 1 เฟส 2 สาย ชี้แจงกล้วยๆคือสายไฟฟ้าเข้า 2 เส้น จะมีสายที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" ปริมาณ 1 เส้น และก็สายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีไฟฟ้าไหล เรียกกว่า "สายนิวตรอน" จำนวน 1 เส้น ทดสอบได้จากปลั๊กไฟฟ้าตามบ้านแบบ 2 ช่อง ลองนำไขควงวัดไฟวัดที่รูทิ่ม จะมันช่องหนึ่งที่มีกระแสไฟ รวมทั้งอีกช่องไม่มีกระแสไฟฟ้า กระบวนการทำอย่างนี้เพื่อให้ไฟฟ้านั้นไหลครบวงจร ส่วนปลั๊กที่มี 3 ช่อง จะมีช่องสายเกรียวกราวด์ เพิ่มเข้ามาอีก 1 ช่อง เพื่อให้ไฟฟ้าไหลลงดิน แม้เกิดไฟฟ้ารั่วซึ่งระบบกระแสไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย จะมีระดับแรงกดดันไฟฟ้าที่ใช้งานจะอยู่ที่ 230-250 V มีความถี่ 50 Hz

กระแสไฟฟ้า 3 เฟสหมายถึงระบบไฟฟ้าระบบ 3 เฟส 4 สาย อธิบายกล้วยๆเป็น สายไฟฟ้าเข้า 4 เส้น จะมีสายที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า "สายไลน์" มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ จำนวน 3 เส้น และสายที่เดินไว้เฉยๆไม่มีไฟฟ้าไหล เรียกว่า "สายนิวตรอน" ปริมาณ 1 เส้น ระดับแรงกดดันกระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน ถ้าวัดแรงดันระหว่างสายไลน์กับสายไลน์ แรงกดดันจะอยู่ที่ 380-400 V แต่หากวัดระหว่างสายไลน์กับสายนิวตรอน แรงกดดันจะอยู่ที่ 230-250 V ความถี่ 50 Hz ซึ่งระบบ 3 เฟส 4 สายนั้น จะใช้กับเครื่องจักรต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนมาก ด้วยเหตุว่าเครื่องจักรมีขนาดใหญ่ จึงอยากได้แรงดันกระแสไฟฟ้าสูง ไฟฟ้าระบบนี้ไม่สามารถที่จะนำมาใช้กับระบบแสงไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าด้านในภายได้โดยตรง

หลายท่านคงจะสงสัยว่าระบบไฟฟ้า 3 เฟส ไม่อาจจะใช้กับวัสดุอุปกรณ์ในบ้านได้ แล้วนำมาเสนอแนะเพื่ออะไร ข้อสงสัยนี้ชี้แจงได้อย่างง่ายดาย กล่าวคือ ระบบกระแสไฟฟ้า 3 เฟสที่จะนำมาใช้ในบ้านนั้น ไม่ได้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเดียวทั้งสิ้นโดยตรง แม้กระนั้นพวกเราจะแบ่งกระแสไฟฟ้า 3 เฟส ออกเป็น กระแสไฟฟ้า 1 เฟส ปริมาณ 3 ชุด แล้วกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆที่เครื่องใช้ไฟฟ้าติดตั้ง แนวทางการทำในลักษณะนี้ถือเป็นการเฉลี่ยการใช้กระแสไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ทำให้ออมค่าใช้กระแสไฟฟ้าได้

Source: https://fms.co.th/เกร็ดความรู้เบื้องต้นเ/